หัวข้อที่ 5.เรื่องข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมทางการพยาบาล + การสอบสวน

หัวข้อที่ 5.เรื่องข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมทางการพยาบาล + การสอบสวน

ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2550
            
            อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 (3) (ซ) และด้วยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2540 คณะกรรมการ สภาการพยาบาลจึงออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
            ข้อ
1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ. 2550”
            ข้อ
2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวนประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

หมวด 1 บททั่วไป

ข้อ 3 ในข้อบังคับนี้ผู้ประกอบวิชาชีพหมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพ การผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
            ข้อ 4 ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมายของ บ้านเมือง
            ข้อ
5 ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดีโดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง
            ข้อ
6 ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใดๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติ ศักดิ์แห่งวิชาชีพ ข้อบังคับ 49 -2- หมวด 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ส่วนที่ 1 การปฏิบัติตอผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
            ข้อ
7 ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกร้อง สินจ้างรางวัลพิเศษนอกเหนือจากค้าบริการที่ควรได้รับตามปกติ
            ข้อ
8 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาล หรือ การผดุงครรภ์เพื่อผลประโยชน์ของตน
            ข้อ
9 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็นค่าตอบแทนเนื่องจากการรับหรือ ส่งผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการเพื่อรับบริการทางการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์
            ข้อ
10 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจากการบังคับ ขู่เข็ญ
            ข้อ
11 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ ให้หลงเข้าใจผิดเพื่อประโยชน์ ของตน
            ข้อ
12 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย และความ สิ้นเปลืองของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
            ข้อ
13 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ทาง การแพทย์อันไม่เปิดเผยส่วนประกอบ
            ข้อ
14 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็นโดยไม่สุจริตในเรื่องใดๆอันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
            ข้อ
15 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการ ซึ่งตนทราบมา เนื่องจากการประกอบวิชาชีพเว้นแต้ด้วยความยินยอมของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ หรือเมื่อต้องปฏิบัติตาม กฎหมายหรือตามหน้าที่
            ข้อ
16 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้
            ข้อ
17 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่ใน เหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล หรือในการปฏิบัติหน้าที่การงานของกระทรวง ทบวงกรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาหรือสภากาชาดไทย  
            ข้อ
18 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ใช้หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์การประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์หรือการสาธารณสุขหรือการประกอบโรคศิลปะโดย ผิดกฎหมาย

ส่วนที่ 2 การปฏิบัติตอผู้ร่วมวิชาชีพ

ข้อ19 ผู้ประกอบวิชาชีพพึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
           ข้อ 20 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
           ข้อ
21 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน

ส่วนที่ 3  การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน

    ข้อ 22 ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน 
            ข้อ 23 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกลงผู้ร่วมงาน
            ข้อ
24 ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน

ส่วนที่ 4 การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์

  ข้อ 25 ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทำการทดลองต่อมนุษย์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกทดลองและ ต้องพร้อมที่จะป้องกันผู้ถูกทดลองจากอันตรายที่ อาจเกิดขึ้นจากการทดลองนั้นๆ 
            ข้อ 26 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ถูกทดลองเช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือ ผู้ใช้บริการในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามส่วนที่ 1 โดยอนุโลม
            ข้อ
27 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลองที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลองอันมิ ใช่ความผิดของผู้ถูกทดลอง
            ข้อ
28 ผู้ประกอบวิชาชีพ สามารถทาการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัยหรือการทดลอง ดังกล่าว ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องแล้วเท่านั้น
            ข้อ
29 ผู้ประกอบวิชาชีพ จะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัยและการ ทดลองในมนุษย์และจรรยาบรรณของนักวิจัย

หมวด การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์

    ข้อ 30 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่โฆษณา ใช้จ้าง หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น 
            ข้อ 31 การโฆษณาตามข้อ 30 อาจกระทําได้ในกรณีต่อไปนี้ (1) การแสดงผลงานในวารสารทางวิชาการหรือในการประชุมวิชาการ (2) การแสดงผลงานในหน้าที่หรือในการบําเพ็ญประโยชน์สาธารณะ (3) การแสดงผลงานหรือความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อการศึกษาของมวลชน (4) การประกาศเกียรติคุณเป็นทางการโดยสถาบันวิชาการ สมาคมหรือมูลนิธิ ทั้งนี้ต้องละเว้นการแสวงหาประโยชน์ที่จะเกิดต่อการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ส่วนบุคคล
            ข้อ
32 ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์หรือสํานักงานได้เพียง ข้อความเฉพาะเรื่อง ต่อไปนี้ (1) ชื่อ ชื่อสกุล และอาจมีคําประกอบชื่อได้เพียงคําอภิไธย ตําแหน่งทางวิชาการ ฐานันดรศักดิ์ยศ และบรรดาศักดิ์เท่านั้น (2) ชื่อปริญญา วุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติหรือหนังสือแสดงคุณวุฒิอย่างอื่น ซึ่งตนได้ รับมาโดยวิธีการถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสภาการพยาบาลหรือสถาบันนั้นๆ (3) สาขาของวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (4) เวลาทําการ
            ข้อ
33 ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เฉพาะการแสดงที่อยู่ ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์และหรือข้อความที่อนุญาตในข้อ 32 เท่านั้น
             ข้อ
34 ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน ถ้าแสดงตนว่าเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานที่ทําการประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทำนองการโฆษณาและต้องไม่มี การแจ้งความตามข้อ 33 ในที่เดียวกันหรือขณะเดียวกันนั้นด้วย
            ข้อ
35 ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ความสามารถ

ประกาศ ณ วันที่ 7 มิถุนายน  พ.ศ.2550
วิจิตร ศรีสุพรรณ
(ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ)

 นายกสภาการพยาบาล ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนพิเศษ 83 ง ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2550

Comments

Popular posts from this blog

หัวข้อที่ 4 หลักจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล มีดังนี้

หัวข้อที่ 7.เรื่องพรบวิชาชีพ